[ระเบียบวิจัย] วิธีการเขียนบทความทางวิชาการ

หลักการเขียนบทความทางวิชาการ PDF


หลักการเขียนบทความทางวิชาการ PDF


ความทางวิชาการที่ไม่ใช่บทความวิจัยมีอะไรบ้างมันก็คือบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารหรือนิตยสารทั่วไปที่เน้นการให้ความรู้ทางวิชาการมีวาระการออกเผยแพร่เป็นระบบเช่นรายเดือนราย 2 เดือนหรือราย 3 เดือนมะกอกโดยสำนักพิมพ์เอกชนผมใช้ว่ามัดออกนะมันออกโดยสำนักพิมพ์เอกชนเช่นไทยวิริยะพาณิชย์สปริงเกอร์ cycles มีอะไรก็ว่าเมื่อตะกี้นี้รัฐวิสาหกิจธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นต้นธนาคารก็คือธนาคารออมสินธนาคารไทยพาณิชย์หรือบริษัทที่มีชื่อเสียงมากๆเช่นประสาทเอสโซ่บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์นะครับที่ทำงานบริษัทที่มีชื่อเสียงมากๆที่ทำงานทางวิชาการอาจจะได้แก่วารสารสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ตหรือวารสารสำนักงานคณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติครับวารสารที่เตรียมกำลังจะออกหรือไม่แน่ใจก็คือวรสารศอฉกับอะไรนะขอรับงบด้วยนะใช้ได้นะเนี่ย เราได้ประชาสัมพันธ์ตัวเองเราได้อะไรล่ะเราได้เงินค่าบทความให้เอามาขอไปได้เอามาขอตำแหน่งวิชาการไปได้นะนะครับดังนั้นดังนั้นบทความวิชาการที่จะเอามาขอตำแหน่งทางวิชาการได้ผมใช้คำว่าต้องเลยนะไม่ใช่ควรนะผมใช้คำว่าต้องนะครับมีน้องไม่ใช่คำว่าควรนะครับไม่ใช่คำว่ากลัวนะผมจะกลับวัดต้องเลยต้องเป็นบทความวิชาการที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเท่านั้นบทความวิชาการทั่วไปหมายถึงบทความวิชาการที่กำลังคุยอยู่เนี่ยนะครับใครเขียนเป้าหมายคืออะไรนักวิชาการทุกด้านทางแพทย์พยาบาลวิศวกรนักการศึกษานักเศรษฐศาสตร์นักรัฐศาสตร์นักกฎหมายนักบริหารธุรกิจนักการตลาดนักการเงินการธนาคารนักเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสารนักโภชนาการอื่นๆนะไปยาลใหญ่เอาหมดแล้วกันเถอะต้องเขียนว่าเธออยากจะเขียนนั่นแหละฟังดีๆนะต้องฟังตรงนี้นิดนึงเป้าหมายสำคัญคือการเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการที่เป็นปัจจุบันที่สุดนี่คือสิ่งที่เราต้องใส่ใจล้าหลังไม่ได้นะมันมีคำอยู่ 3 คำล้ำสมัยเกินล่วงหน้าทันสมัยคือปัจจุบันล้าสมัยไม่ได้เลยเป็นการเขียนเพื่อให้ความรู้ทางวิชาการที่เป็นปัจจุบันที่สุดคือความรู้ทางวิชาการที่ทันสมัยที่สุดยกตัวอย่างเช่นท่านใดท่านหนึ่งในห้องนี้นะครับท่านใดท่านหนึ่งในห้องนี้เป็นผู้เ****วชาญทางด้านอาหารนะครับอาจจะเขียนบทความทางวิชาการเรื่องสารอาหารสารอาหารจากกล้วยหินครับและคุณสมบัติสำหรับการปราบมะเร็งต่อมลูกหมากความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งนะครับเป้าหมายที่สำคัญคือการเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการที่เป็นปัจจุบันที่สุดสู่ผู้อ่านองค์ประกอบที่ต้องเขียนนะครับองค์ประกอบที่ต้องมีการเน้นก็คือในบทความวิชาการนั้นจะต้องสื่อถึงแนวคิดทฤษฎีด้านนั้นๆด้วยไงว่าก็ต้องสื่อถึงแนวทฤษฎีแนวคิดทฤษฎีของกล้วยหินหลักการความสำคัญโภชนาการของกล้วยหินนะครับคือต้องมีแนวคิดดีถัดมาคือต้องพูดถึงเทคนิควิธีนะครับที่ต้องใช้ในเรื่องนั้นๆและต้องมีตัวอย่างประกอบด้วยคือบทความวิชาการในการเขียนบทความวิชาการจะต้องสื่อความหมายถึงแนวคิดทฤษฎีและเทคนิควิธีเทคนิควิธีพร้อมกับยกตัวอย่างประกอบตัวอย่างเช่นอาจารย์ทางพยาบาลอาจจะเขียนเรื่องการเลี้ยงทารกด้วยนมมารดาลดน้ำนมมารดาเป็นอาหารที่สำคัญยิ่งสำหรับทารกมีธาตุอาหารจุดจุดจุดจุดจุดที่เป็นประโยชน์ต่อกายภาพและพัฒนาการทางสมองวงเล็บโยธินทีละน้อยโรเบิร์ตเรดฟอร์ด John Denver และก็ว่ามาท๊อปส์รู้ว่ามาทารกนะครับที่จะทารกจะเจริญเติบโตได้ต้องกินอาหารผสมน้ำหรือว่าไปงานในองค์ประกอบทางแนวคิดหรือทฤษฎีพร้อมกับจะต้องบอกว่าในการที่จะให้ทารกได้ดื่มนมมารดานั้นในทางปฏิบัติมารดาจะต้องนะครับนั่งตัวตรงเพื่อให้เต้านมหย่อนออกมาแบบนั้นแบบนี้นะครับแล้วก็ตัวทารกเองจะต้องนั่งจะต้องช้อนซื้อผ้าไหมให้เป็นไงแล้วก็บอกว่าดังภาพตัวอย่างต่อไปนี้ 1 เอาไหมว่าแม่ต้องนั่งกินอะไรไหมหรือจะต้องมีทฤษฎีมีเทคนิควิธีพร้อมกับชี้นำให้นำไปปฏิบัติได้คือมีตัวอย่างบทความวิจัยกับบทความทางวิชาการที่มันแตกต่างกันก็คือว่าบทความวิจัยเนี่ยต้องมีแนวคิดและทฤษฎีทุกครั้งถ้าไม่มีก็จะไปรวมไว้ในบทนำแต่ที่สำคัญคือบทความวิจัยจะต้องมีหัวหรือผมไปเดินเรื่องข้อมูลและระเบียบวิธีวิจัยนะครับแล้วก็การวิเคราะห์ข้อมูลและผลการวิจัยเอ๋ไหมส่วนบทความวิชา ที่สำคัญคือมันจะมีบทนำมันจะมีบทนำบ้างวารสารใช้คำว่าบทนำไปวรสารใช้คำว่า introduction บางวารสารใช้คำว่า background โอเคไหมนะครับที่นี้ที่นี้บทความวิชาการทั่วไปนี้นะครับจะไม่มีหัวข้อที่เรียกว่าแนวคิดและวรรณกรรมที่เกี่ยวกับจะไม่เขียนหัวข้อนี้ไม่หรอกแต่จะเป็นการเขียนความรู้ทางวิชาการออกมาเลยนะครับไม่มีหัวข้อข้อมูลและและข้อมูลและระเบียบวิธีวิจัยไม่มีไม่มีแต่ในการเขียนบทความวิชาการบางคราวหน้าผมแจ้งว่าบางคราวจะมีการยกข้อมูลทุติยภูมิจากหนังสือจากรายงานทาง Siri มาประกอบเพื่อให้ร่วงเรื่องที่เขียนนะครับมีเนื้อหาสาระมากขึ้นมีตัวเลขพิจารณามากขึ้นโอเคไหมคือถ้าจะใช้ข้อมูลกับมักจะนิยมใช้ข้อมูลทุติยภูมิเขียนเรื่องการผลิตยางพาราในจังหวัดปัตตานีเขียนเรื่องการผลิตยางพาราในจังหวัดปัตตานีนะครับครับดูนะผมจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างนะครับการผลิตยางพาราในจังหวัดปัตตานีอาจารย์ท่านก็เขียนชื่อเรื่องการผลิตยางพาราในจังหวัดปัตตานีใช้อะไรก็ว่ามานะครับขอให้มีบทนำกันก็มีบทนำตามเขาไปนี้แกก็เขียนมานะอาจารย์ก็เขียนว่าอาจารย์เกษียณแล้วนะครับการผลิตยางบทนำบทนำแล้วนะการผลิตยางพาราในจังหวัดปัตตานีกับเลข 1 ก็ใช้สี่เหลี่ยมเวทีมวยเหมือนกันเตรียมเวทีมวยเหมือนกันหลักการแบบนี้เหมือนกันใช่ไหมคำแรกเกิดการผลิตยางพาราวันนี้ยางพาราเป็นอะไรทำที่ 2 จังหวัดปัตตานีเป็นแบบไหนอะไรก็น่าใช้หลักการเดียวกันแหละใส่เลขของย่อหน้าแก่นะชนิดตรงนี้พันธุ์ยางพันธุ์ยางพารานี่คือพันธุ์ยางพาราย่อหน้าแรกเลยพันธุ์ยางพาราที่นิยมใช้ปลูกในจังหวัดปัตตานีประกอบด้วยพันธุ์ยางกอไก่ขอไข่คอควายทั้งนี้เพราะอะไรทำไมอย่างไรใช่ไหมตารางที่ 1 พันธุ์ยางพาราที่นิยมปลูกในจังหวัดปัตตานีไหมเนี่ยก็คืออาจารย์ไปอ่านเจอนะครับตารางนี้จากวาระจากหนังสือของกรมวิชาการเกษตร OK ไหมอาจารย์เขาก็ Copy ตารางนี้มาเลยใช่ไหมครับผมใช้ Copy ตารางนี้มาเลยนะแล้วก็มาวางตรงนี้แหละอาจารย์อาจารย์จะต้องซื่อสัตย์แล้วก็เขียนว่าที่มาเจอนะครับที่มาจุดโยธินแสวงดีพันธุ์ยางพาราในประเทศไทยจังหวัดปัตตานีหรือว่ามาเป็นสิ่งสำคัญคือการอ้างตรงนี้โอเคไหมครับสำคัญแล้วทำแบบนี้ไม่ผิดนะครับแต่ว่าเราไม่ได้ยกมาทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์นะครับเราเอาเฉพาะตารางก็มาเนี่ยเราก็เขียนที่มาตรงนี้โอเคไหมหรือหรืออาจารย์ก็เขียนเขียนมาดูนะครับอาจารย์ก็เขียนเขียนมาฉันก็เขียนเขียนมานะจ๊ะแล้วก็เป็น 1.1 อาจารย์ก็ตั้งหัวไว้นะครับตั้งไว้เขียนมาอีกเขียนมาอีกเขียนมาอีกแล้วตารางที่ 2 ตอนนี้เป็นตลาดที่ 2 แล้วนะปรากฏว่าปรากฏว่าชื่อคอลัมน์เนี่ยเปลี่ยนใหม่ชื่อตรงนี้เปลี่ยนใหม่ตรงนี้ชื่อตรงนี้ก็เปลี่ยนใหม่แต่ตัวเลขอาจารย์เอามาคำนวณใหม่นะครับอาจารย์ก็ต้องมีที่มาที่มาจุดรับคำนวณใหม่ The ที่มาคำนวณใหม่จากตัวเลขการจำหน่ายยางพาราในจังหวัดปัตตานีที่โยธินแสวงดีวางหลักการไว้เมื่อปี 47 อะไรประจำตัววัตถุดิบมาจากโยธินนั่นแหละแต่ว่ามาขับรถใหม่ก็ต้องเขียนไว้นะครับอันนี้อันนี้เราต้องใส่ใจอันนี้นะไม่งั้นเราจะโดนเขาหาว่า Cut & paste นะครับ ok นะครับดังนั้นจะเป็นตลาดแบบไหนก็ว่ามาณที่นี้แหล่งข้อมูลณแหล่งข้อมูลที่นำมาใช้ในการเขียนนะหากเป็นการเขียนบทความที่ไม่เน้นตัวเลขและกราฟแต่ต้องการเน้นด้านเนื้อหาวิชาการที่เป็นหลักเฉพาะเรื่องที่เป็นหลักการเฉพาะเรื่องหรือประเด็นให้เน้นที่การเขียนในลักษณะการเรียบเรียงเนื้อหาขึ้นมาเพื่อสื่อความหมายไปตามประเด็นที่ต้องการเผยแพร่แต่ต้องเขียนด้วยสำนวนเราเองเราต้องอ่านเอาเรื่องคือการจับประเด็นมาให้ได้นะครับก่อนจากหนังสือหรือจากบทความวารสารหลายๆบทความเช่นอาจจะ 4 5 6 เล่มอะไรก็ว่ามาแล้วเรียบเรียงใหม่ให้ ตามประเด็นหรือหัวข้อที่เราต้องการเขียนจะต้องใช้คำได้ถูกต้องตามหลักการของศาสตร์หรือประเด็นนั้นๆหากจำเป็นต้องวงเล็บภาษาอังกฤษไปด้วยก็ต้องวงเล็บสิ่งสำคัญที่มันเกิดขึ้นในทุกวันนี้คือการขโมยความคิดของคนอื่นก็คือ Cut & paste ระวังรถแต่งเป็นชื่อเราไม่ได้เลยนะครับการเขียนบทความวิชาการที่เป็นการสื่อความหมายเนื้อหาสาระทางวิชาการที่ทันสมัยที่สุดใหม่ที่สุดเนี่ยเราเนี่ยนะจะต้องเป็นคนอ่านเอาเรื่องอ่านแล้วจับประเด็นต่างๆจากเอกสารมานะครับแล้วประมวลเป็นภาษาของเราเองยกตัวอย่าง

เช่นนักวิชาการเกษตรที่จังหวัดนราธิวาสจังหวัดยะลานักวิชาการเกษตรที่จังหวัดยะลาเขามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องส้มโชกุนอย่างมากเขาก็เขียนบทความวิชาการเผยแพร่เรื่องวิธีการบำรุงรักษาพันธุ์ส้มโชกุนมีวิธีรักษายังไงให้มันอร่อยให้มันหวานให้มันนะครับน่ารับประทานเพราะจากประสบการณ์ที่เขาเพาะเลี้ยงหรือศึกษามาเขารู้ว่าควรให้ความรู้แบบนี้นะครับตัวอย่างหัวข้อที่ลูกศิษย์ผมเคยเกลียดนะแล้วผมก็เคยเขียนด้วยก็ได้แก่การบริหารงานบุคคลยุคใหม่ในสถานประกอบการขนาดเล็กหรือส่วนผสมการตลาดกับโอกาสการพัฒนายอดขายหรือมารดากับการดูแลสุขภาพฟันของทารกหรือของลูกน้อยก็ได้หรือห่วงโซ่อุปทานกับระบบการขนส่งสินค้าและถ้าของผมเองเนี่ยขั้นตอนและวิธีการรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพและนี่คือของผมเองเขียนเพื่อให้ความรู้นะครับเกี่ยวกับเฉพาะด้านเสียนะเนี่ยคือหัวข้อการคิดและการเตรียมตัวในการเขียนเลือกวารสารหรือนิตยสารที่มีพื้นที่สำหรับบทความวิชาการทั่วไปให้ลงหาได้ตามร้านจำหน่ายหนังสือทั่วไปนะครับหนังสือดีๆพวกในองค์นี้พิมพ์เนี่ยนะเน้นวารสารหรือนิตยสารที่ยินดีเปิดรับบทความวิชาการทั่วไปจากผู้อ่านหรือผู้ที่ชำนาญการหรือเฉพาะด้านในฐานะที่เราเป็นอาจารย์มหาลัยควรเน้นวารสารวิชาการที่ตีพิมพ์เผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการที่ผมพูดไปแล้วอ่านวารสารหรือนิตยสารนั้นๆหลายๆฉบับนะครับในปีปัจจุบันจะทำให้เข้าใจเนื้อหาที่นิยมตีพิมพ์สํานวนเขียนรูปแบบหรือสไตล์การเขียนจะซึมซับให้เราจับทางได้เราต้องอ่านไปบ่อยแล้วจะรู้สไตล์การเขียนของเขาไงเลือกเขียนในประเด็นที่เราชอบพร้อมกับมีความรู้และข้อมูลทั้งในด้านเนื้อหาเชิงวิชาการที่เป็นหลักการที่ถูกต้องมีรูปภาพตารางกราฟแผนภาพนะครับเรื่องนั้นนั้นมากที่สุดเป็นปัจจุบันที่สุดคือหมายความว่าเราชอบเรื่องอะไรแล้วก็เก็บข้อมูลหมายถึงเจ็บตารางเก็บรูปภาพที่มันเห็นเห็นมาแล้วไว้เป็นนะครับไว้กับเราก็จะใช้สื่อความหมายในการเขียนได้ตระหนักในจำนวนหน้าเช่น 4 หน้า 6 หน้า 8 หน้า 10 หน้าจอเนี่ยนะครับนะครับพิมพ์ออกมาแค่ 2 แผ่นหรือกลางมามักจะเป็นหน้าคู่คือหมายความว่าอย่างที่ผมบอกไงควรเลือกวารสารที่ให้พื้นที่เยอะๆแต่ถ้า 2-3 หน้าไม่คุ้มเดี๋ยวโดนกรรมการมันตำหนิอีกแทนที่จะได้กลับตกแต่เหนื่อยเปล่าๆนะครับการเริ่มต้นในการเขียนคิดคือการเขียนบทความวิชาการและสิ่งแรกที่เราต้องใส่ใจก็คือเรานั้นน่ะจะต้องคิดประเด็นที่จะเขียนเราต้องคิดประเด็นที่จะเขียนก่อนนะคิดประเด็นที่จะเขียนทำให้ได้ชื่อเรื่องและประเด็นเนื้อหาหลักในการเขียนตอนแรกชื่อเรื่องอาจยาวย่อยปล่อยไปก่อนตัดแต่งทีหลังได้เน้นทำให้โดดเด่นภายหลังได้

คือคิดเรื่องที่จะเขียนอ่ะถ้าถ้าใครอยู่สายศิลปะการแสดงสายเสื้อผ้าวิชาเอกคหกรรมศาสตร์เขาอาจจะเขียนเรื่องสตรีชาวมุสลิมกับการแต่งกายให้สวยงามในการแสดงนะครับนะครับที่นี้เมื่อได้ประเด็นที่จะเขียนแล้วนะครับรวบรวมเนื้อหาวิชาการจากการอ่านทบทวนรวบรวมตารางกราฟเส้นกราฟแท่งรูปภาพระบุแหล่งที่มาให้ถูกต้องจัดเตรียมวัตถุดิบไว้เลยเขียน รับได้ตารางใต้รูปภาพไว้ล่วงหน้าว่าจะใช้สื่อเพื่ออธิบายอะไรนั่นแหละแต่ต้องเขียนให้ครบทุกประเด็นภายใต้ชื่อเรื่องนั้นไหมจะต้องแบ่งเนื้อหาการเขียนอย่างไรบ้างเช่นประเด็นใดจะพูดมากที่สุดเนื้อหาที่จะกล่าวถึงมีอะไรวะอะไรบ้างร่างเอาไว้ล่วงหน้าคือพูดง่ายๆว่าการเขียนบทความวิชาการกับการเขียนบทความวิจัยหนีไม่พ้นอาจจะเข้าแมพหรือแม้เพียงแต่ว่าบทความวิชาการมันพุ่งเป้าไปที่จะเขียนเรื่องอะไรแต่ต้องทันสมัยนะต้องทันสมัยนะครับและเป็นปัจจุบันที่สุดนะครับเริ่มต้นร่างเนื้อหาที่จะเขียนด้วยกระดาษทดไหมเขียนโครงแบบเขียนโครงแบบแผนที่บทความเดือนที่ 9 แบบเขียนโครงเอาไว้นะครับใช้วิธีการแบบการกำหนดประเด็นหรือหัวข้อเด่นที่จะเขียนขึ้นมาสัก 4 หรือ 5 หัวข้อเรื่องแม่เขียนหัวดำหัวเลข 1 1.11.2 แบบนั้นอ่ะนะครับเนื่องจากหัวข้อที่เราคิดว่าควรเป็นประเด็นที่เริ่มต้นแล้วต่อด้วยประเด็นลำดับถัดไปที่เราคิดว่าควรเป็นประเด็นต่อเนื่องตามที่เราต้องการสื่อหลังจากนั้นระบุประเด็นที่จะเขียนหรือบรรยายในประเด็นเหล่านั้นลงไปพร้อมกับบันทึกไว้ว่าจะแสดงข้อมูลอะไรเช่นกราฟรูปภาพอะไรลงไปเอาดูนะครับดูนะอันนี้เขาเขียนไปแล้วนะเป็นแค่ตัวอย่างนะครับสายบริหารธุรกิจลูกศิษย์ผมก็เขียนไปแล้วก็คือตัวอย่างการทำงานในกระดาษทดหรืออาจจะโกงแบบไหนเช่นชื่อเรื่องของลูกศิษย์นะครับห่วงโซ่อุปทานกับระบบการขนส่งอันนี้ก็คือสายบริหารธุรกิจหน้าที่กำลังฮิตกันอยู่ทุกวันเนี่ยห่วงโซ่ประธานก็คือพวกผลพวกทรัพยากรต่างๆใช่ไหมวัสดุอุปกรณ์ทรัพยากรเพื่อการผลิตห่วงโซ่อุปทานกับการขนส่งให้ไหมเขาก็จะวางหัวบทนำวันนี้ผมเขียนยังไม่สมบูรณ์นะเราอาจจะได้แก่คำว่าบทนำบทนำนะครับกดน้ำร้อนน้ำเพื่อโปรยว่าห่วงโซ่อุปทานคืออะไรทำไมจึงสำคัญและเล่าต่อว่าระบบการขนส่งคืออะไรทำไมต้องมาเกี่ยวข้องของโซ่อุปทานแล้วก็ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรตอนนี้เป็นอย่างไรอันนี้คือในบทนําคือเราต้องเขียนได้ก่อนว่าบทนำเราจะสื่อเรื่องอะไรบ้างเข้าใจนะครับทรัพยากรและวัตถุดิบและจะพูดเรื่องอะไรบ้างไหมแล้วจะนำเสนอตารางอะไรลงไปเราต้องคิดกับว่าถ้ากูเขียนตรงถ้าเขียนเรื่องนี้ตารางน่าจะเป็นตารางข้อมูลแบบนั้นแล้วเราจะได้หาตารางได้แล้วล้างอาจจะเอามาจากรายงานสีต่างๆหรือข้อมูลจากหน่วยงานอื่นแล้วเรามาคำนวณใหม่ก็ยังได้ขั้นตอนการกำหนดจุดเด่นของงานนะครับไปที่การที่จะเขียนกำหนดประเด็นสำคัญให้ชัดเจนว่าในแต่ละตารางกราฟรูปภาพแผนผังนี้จะอธิบายอะไรบ้างให้ผู้ผู้อ่านและบรรณาธิการได้เข้าใจข้อค้นพบที่แสดงในตารางกราฟหรือรูปภาพสอดคล้องกับแนวคิดสีใดหรือประกันวรรณกรรมใดที่ผ่านมาบ้านก็ใช้ search แบบ Google scholar ตามหลักธรรมต่างๆบทความอ้างอิงจะเขียนไว้ในการเขียนต้องใช้คำที่สม่ำเสมอตลอดเรื่องไม่เปลี่ยนคำเช่นถ้าใช้คำว่าตายก็ตายจะใช้มรณะก็มรณะให้ตลอดรอดฝั่งนะครับอยากกลับไปกลับมานะครับสิ่งสำคัญคืออย่าใช้คำฟุ่มเฟือยด้วยเช่นคำว่านั้นบ่อยเกินไปคำว่าและเกินไปครับว่านี้ดังนี้จะนั้นดังนั้นจึงตึงตึงตึงตึงตึ้งซึ่งตึ้งซึ่งดังกล่าวนี้ดังกล่าวนี้ดังกล่าวแล้วก็อยู่เสมอเกี่ยวกับแต่ละหน้าที่เขียน 1 หน้าควรมี 2 หรือ 3 ย่อหน้าตอน 1 หน้าในแต่ละย่อหน้าควรมีอ้างอิงประมาณ 2 3 4 แห่งนี้เราเข้าใจหมดแล้วใช่ไหมครับการอ้างอิงไม่ควรซ้ำในหน้าเดียวกันนะครับเพราะและทั้งหมดและทั้งบทความนะและทั้งหมดความอ้างซ้ำได้ครั้งเดียวห้ามอ้างในคือห้ามใช้อันไหนจะมีวิธีทำให้ดูห้ามใช้อ้างในห้างใส่เต็ม 5 บทคัดย่อคือไม่ต้องมีคำว่าบทคัดย่อหรอกเขียนไปเลยย่อมาเป็นภาษาตัวเองห้ามอ้างเว็บ 5 แบบ www slash slash slash ไม่เอาไม่เอาเครื่องปริ้นบทความออกมาแล้วก็จะรู้ว่าบทความนี้ใครเขียนที่ เรารู้หมดแล้วนะ

ไม่มีความคิดเห็น