[การจัดการเชิงกลยุทธ์] Corporate Strategy

กลยุทธ์ระดับองค์กรคืออะไร PDF MBA

Corporate Strategy PDF คลิก

# 1 การจัดสรรทรัพยากร
การจัดสรรทรัพยากรที่ บริษัท มุ่งเน้นไปที่สองทรัพยากร: คนและทุน ในความพยายามที่จะเพิ่มมูลค่าให้สูงสุดของ บริษัท ทั้งหมดผู้นำจะต้องกำหนดวิธีการจัดสรรทรัพยากรเหล่านี้ให้กับธุรกิจหรือหน่วยธุรกิจต่างๆเพื่อสร้างมูลค่าที่มากกว่าผลรวมของส่วนต่างๆ

ปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรทรัพยากรคือ:

คน
ระบุความสามารถหลักและสร้างความมั่นใจว่ามีการกระจายอย่างทั่วถึงทั่วทั้ง บริษัท
การย้ายผู้นำไปยังสถานที่ที่พวกเขาต้องการมากที่สุดและเพิ่มมูลค่ามากที่สุด (การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามลำดับความสำคัญ)
การสร้างความมั่นใจว่าอุปทานที่เหมาะสมของความสามารถนั้นมีอยู่สำหรับทุกธุรกิจ
เมืองหลวง
การจัดสรรเงินทุนในธุรกิจต่างๆเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ปรับความเสี่ยงสูงสุด
การวิเคราะห์โอกาสภายนอก (การควบรวมและซื้อกิจการ) และการจัดสรรเงินทุนระหว่างภายใน (โครงการ) และโอกาสภายนอก


# 2 การออกแบบองค์กร
การออกแบบองค์กรเกี่ยวข้องกับการทำให้มั่นใจว่า บริษัท มีโครงสร้างองค์กรที่จำเป็นและระบบที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างมูลค่าสูงสุด ปัจจัยที่ผู้นำต้องพิจารณาคือบทบาทของสำนักงานใหญ่ของ บริษัท (วิธีการรวมศูนย์กับการกระจายอำนาจและโครงสร้างการรายงานของบุคคลและหน่วยธุรกิจ (ลำดับชั้นแนวตั้งการรายงานเมทริกซ์ ฯลฯ )

ปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรทรัพยากรคือ:

สำนักงานใหญ่ (ส่วนกลางกับการกระจายอำนาจ)
การพิจารณาจำนวนอิสระในการให้หน่วยธุรกิจ
การตัดสินใจว่าจะทำการตัดสินใจจากบนลงล่างหรือล่างขึ้นบน
อิทธิพลของกลยุทธ์หน่วยธุรกิจ
โครงสร้างองค์กร (การรายงาน)
กำหนดว่าโครงการขนาดใหญ่และภาระผูกพันจะแบ่งออกเป็นโครงการขนาดเล็กได้อย่างไร
การบูรณาการหน่วยธุรกิจและฟังก์ชั่นทางธุรกิจเช่นที่ไม่มีความซ้ำซ้อน
การอนุญาตให้มีความสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีอยู่โดยการแยกความรับผิดชอบ
การพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศ
การพิจารณาการมอบอำนาจที่เหมาะสม
การกำหนดโครงสร้างการกำกับดูแล
การตั้งค่าโครงสร้างการรายงาน (การทหาร / บนลงล่าง, การรายงานเมทริกซ์


# 3 การจัดการพอร์ตโฟลิโอ
การจัดการพอร์ตโฟลิโอดูที่วิธีที่หน่วยธุรกิจเสริมซึ่งกันและกันความสัมพันธ์ของพวกเขาและตัดสินใจว่า บริษัท จะ "เล่น" (เช่นธุรกิจใดที่ บริษัท จะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วม)

กลยุทธ์องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการพอร์ตโฟลิโอประกอบด้วย:

การตัดสินใจว่าจะเข้าหรือออกจากธุรกิจใด
การกำหนดขอบเขตของการรวมกลุ่มในแนวดิ่งที่ บริษัท ควรมี
การจัดการความเสี่ยงด้วยการกระจายความเสี่ยงและลดความสัมพันธ์ของผลลัพธ์ในธุรกิจต่างๆ
การสร้างทางเลือกเชิงกลยุทธ์โดยการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ที่สามารถลงทุนอย่างหนักหากเหมาะสม
ตรวจสอบแนวการแข่งขันและให้แน่ใจว่าพอร์ตโฟลิโอมีความสมดุลเมื่อเทียบกับแนวโน้มในตลาด


# 4 การแลกเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์
หนึ่งในสิ่งที่ท้าทายที่สุดของกลยุทธ์องค์กรคือการถ่วงดุลการแลกเปลี่ยนระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนทั่วทั้ง บริษัท สิ่งสำคัญคือต้องมีมุมมองแบบองค์รวมของธุรกิจทั้งหมดรวมกันและตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับที่ต้องการคือการจัดการความเสี่ยงและการสร้างผลตอบแทนกำลังถูกติดตาม

ด้านล่างนี้เป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาการแลกเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์:

การจัดการความเสี่ยง
ความเสี่ยงทั่วทั้ง บริษัท นั้นขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่เลือกปฏิบัติ
ยกตัวอย่างเช่นการสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริงเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเป็นผู้นำในตลาดหรือการทำลายโดยรวม
บริษัท หลายแห่งเลือกใช้กลยุทธ์การเลียนแบบโดยดูจากสิ่งที่ผู้ทำความเสี่ยงรายอื่นได้ทำและปรับเปลี่ยนเล็กน้อย
การตระหนักถึงกลยุทธ์และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั่วทั้ง บริษัท เป็นสิ่งสำคัญ
บางพื้นที่อาจต้องการความแตกต่างที่แท้จริง (หรือความเป็นผู้นำด้านต้นทุน) แต่พื้นที่อื่น ๆ อาจเหมาะกว่ากับกลยุทธ์การคัดลอกแมวที่ต้องอาศัยการปรับปรุงที่เพิ่มขึ้น
ระดับของหน่วยธุรกิจอิสระมีความสำคัญในการจัดการความเสี่ยงนี้
สร้างผลตอบแทน
กลยุทธ์ความเสี่ยงที่สูงขึ้นจะสร้างอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น ตัวอย่างข้างต้นของความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ที่แท้จริงหรือความเป็นผู้นำด้านต้นทุนสามารถให้ผลตอบแทนสูงสุดในระยะยาวหากดำเนินการอย่างดี
การแกว่งรั้วจะนำไปสู่การวิ่งกลับบ้านมากขึ้นและการใช้จ่ายมากขึ้นดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีตัวเลือกจำนวนที่เหมาะสมในพอร์ตโฟลิโอ ตัวเลือกเหล่านี้สามารถเปลี่ยนเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ได้ในภายหลังเมื่อกลยุทธ์พัฒนาขึ้น
แรงจูงใจ
โครงสร้างของสิ่งจูงใจจะมีบทบาทสำคัญในความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ผู้จัดการต้องการ
อาจจำเป็นต้องแยกความรับผิดชอบของการจัดการความเสี่ยงและการสร้างผลตอบแทนเพื่อให้แต่ละคนสามารถติดตามไปในระดับที่ต้องการ
มันอาจช่วยในการจัดการระยะเวลาที่ทับซ้อนกันหลายต่อหลายช่วงตั้งแต่ความเสี่ยง / ผลตอบแทนระยะสั้นไปจนถึงความเสี่ยง / ผลตอบแทนระยะยาวและสร้างความมั่นใจว่ามีการกระจายที่เหมาะสม